เปิด “หนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม” ของพระพิมลธรรม ก่อนถูกเปลื้องผ้าเหลือง และถูกคุมขังที่ “สันติปาลาราม”


วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๐๕ เวลาบ่าย ประมาณ ๑๓.๓๐ น. ขณะที่พระพิมลธรรม (อาจ อาสภมหาเถร) พระมหาเถระระดับรองสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กำลังนั่งสนทนากับญาติโยมที่มาเยี่ยมอยู่นั้น ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นจับกุมพระพิมลธรรมโดยข้อหาว่า “มีการกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐและกระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ และกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐบาลภายในราชอาณาจักร” อันเป็นความผิดอาญามีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต จากนั้นได้นำท่านไปคุมขังไว้ที่สันติบาล

พระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ)


ต่อมาในเวลา ๒๐.๑๕ น. กรมตำรวจก็ได้แถลงการณ์นำออกประกาศทางวิทยุกระจายเสียง กรมประชาสัมพันธ์ ถึงสาเหตุที่จับกุมอดีตพระพิมลธรรมในครั้งนี้ ต่อจากนั้นตำรวจได้นิมนต์พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดพระนคร วัดสามพระยา และพระธรรมมหาวีรานุวัตร วัดไตรมิตรวิทยาราม มาสึกพระพิมลธรรม เมื่อพระสังฆาธิการทั้ง ๒ รูปมาถึง หลังจากที่สนทนาเหตุการณ์ต่างๆ แล้ว พระพิมลธรรมได้เขียนหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมมีใจความว่า
“กระผมขอเรียนด้วยความเคารพอีกว่า ถ้าท่านเจ้าคุณก็ดี หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ขึ้นไปก็ดี ไม่มีเมตตากรุณาให้ความเป็นธรรมแก่กระผมตามที่ได้ขอความกรุณาแล้ว กระผมขอความกรุณาอีก คือไม่ยอมสึกตามข้อบังคับอันมิชอบด้วยพระธรรมวินัยและกฎหมายนั้น จะยอมเอาชีวิตบูชาพระรัตนตรัยตลอดไปจนถึงที่สุด ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดลุอำนาจเข้ามาแย่งชิงผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากร่างกายของกระผมแล้วไซร้ กระผมจะถือว่าผู้นั้นแย่งชิงเอาโดยผิดศีลธรรม และกระผมจะยังปฏิญาณตนเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาอยู่ตลอดไป ถึงแม้จะมีผู้มีใจโหดร้ายทารุณแย่งชิงผ้ากาสาวพัสตร์ของกระผมไป กระผมก็จะนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ชุดอื่นแทน ซึ่งกระผมมีสิทธิตามพระธรรมวินัยและกฎหมาย จึงขอให้ท่านเจ้าคุณผู้รู้เห็นอยู่ ณ ที่นี้ โปรดทราบและเป็นสักขีพยานให้แก่กระผม ตามคำปฏิญาณนี้ด้วย”
หนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมของพระพิมลธรรม ต่อพระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดพระนคร


เมื่อถึงเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. ของวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๐๕ หลังจากที่พระสังฆาธิการทั้ง ๒ รูป ได้รับหนังสือไว้แล้ว พระธรรมมหาวีรานุวัตร มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่จึงได้ปลอบว่า“ขอให้ปฎิบัติตามด้วยดีเยี่ยงนักปราชญ์เหมือนอย่างที่เจ้าคุณใหญ่เคยปฏิบัติมาแล้ว เอาไปสู้คดีดาบหน้า ซึ่งหวังว่าเจ้าคุณใหญ่คงมีสติปัญญาเพียงพออยู่แล้ว”
พระพิมลธรรม เมื่อถูกจำขังอยู่ในสันติบาล หรือ “สันติปาลาราม”

จากนั้น พระธรรมคุณาภรณ์ยกมือขึ้นไหว้พระพิมลธรรมแล้วพูดว่า “ผมขอผ้าเหลืองก็แล้วกัน” แล้วจึงค่อยๆ ปลดเปลื้องจีวรส่วนบน ส่วนพระธรรมมหาวีรานุวัตรเข้ามากราบที่ตักพระพิมลธรรมพร้อมช่วยเปลืองผ้าเหลืองส่วนล่างเพื่อเป็นการนำให้ตำรวจในการที่จะเปลื้องผ้าเหลืองออก ขณะที่ตัวอดีตพระพิมลธรรมอยู่ในกิริยาอาการนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้นวม หลับตา มือนับลูกประคำ ใจเจริญพระพุทธคุณ ๑๐๘ บทด้วยจิตใจที่ไม่หวั่นไหว นี้เป็นวิบากกกรรมที่ต้องเผชิญอยู่ในที่คุมขังถึงระยะเวลา ๕ ปี และในระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่นั้น นายอาจ ดวงมาลา (ตามที่เจ้าหน้าที่เรียก) ได้ประกาศความเป็นสมณสัญญาอยู่ คือ จะทำทุกอิริยาบถเหมือนเดิม เหมือนเป็นพระภิกษุทุกประการ เช่น การฉันอาหาร ต้องให้ตำรวจช่วยประเคน เป็นต้น เพราะถือว่าตนนั้นมิได้สึกแต่ประการใด เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบผ้าที่ครองเท่านั้น แม้ความเป็นพระก็ไม่ได้อยู่ที่ผ้า แต่อยู่ที่การประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
เหตุการณ์ที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ ยิ่งทำให้อดีตพระพิมลธรรมกลับได้รับความศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณถึงการต่อสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของตน มีคณะศิษย์ไปเยี่ยมมากมายมิได้ขาด จนสันติบาลอันเป็นสถานที่ถูกคุมขังได้รับการขนานนามว่า “สันติปาลาราม” เสมือนเป็นวัด ในระหว่างที่จำพรรษาอยู่ในสันติบาลนั้น ก็ได้เขียนหนังสือสั่งสอนลูกศิษย์อยู่เสมอ

คัดข้อความจากบทความ : “จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในฐานะจำเลยสังคมในกรณีคดีพระพิมลธรรม” โดย พระมหาอิสระ ญาณิสฺสโร (ชัยภักดี) ใน นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๐

ปล. ในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๐๙ ศาลทหารพิพากษายกฟ้องรับรองความบริสุทธิ์ของท่าน ผู้คนต่างศรัทธาต่ออดีตพระพิมลธรรมเป็นอย่างมาก มีการชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ท่าน เช่น การขอให้เพิกถอนพระบัญชาความผิดคืน การขอพระราชทานสมณศักดิ์กลับคืน ขอคืนตำแหน่งเจ้าอาวาสดังเดิม เป็นต้น ผลจากความบริสุทธิ์ในครั้งนี้ทำให้พระพิมลธรรมได้รับความเจริญงอกงามในทางพระพุทธศาสนา ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นถึงสมเด็จพระราชาคณะที่ “สมเด็จพระพุฒาจารย์” ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช



สโมสรศิลปวัฒนธรรม







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อดีตพระพิมลธรรม “บริสุทธิ์” ศาลทหารพิพากษายกฟ้อง